หนึ่งในกลยุทธ์ การตลาด ในไทย Email Marketing สามารถใช้ได้ และช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จจากการเข้าถึง บริการ ลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อีกด้วย
Table of contents
Email Marketing คืออะไร?
Email Marketing คือวิธีที่ให้ธุรกิจสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Email ด้วยวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น นำเสนอสินค้า หรือ บริการ โปรโมชั่น แคมเปญการตลาดต่างๆ ฯลฯ โดยเจ้าของธุรกิจหลายคนอาจคิดว่าเป็นวิธีที่ยุ่งยาก และไม่ได้ผลเพราะคนไม่ค่อยใช้ Email ในชีวิตประจำวัน ซึ่งความคิดนี้ก็มีส่วนถูกหากธุรกิจที่คุณทำขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่ดูแล้วไม่น่าจะใช้อีเมลสื่อสารในชีวิตประจำวัน
แต่ถ้าหากธุรกิจของคุณ! มีกลุ่มลูกค้าเป็นคนสมัยใหม่วัยทำงานหรือทำธุรกิจแบบ B2B ที่ต้องเข้าถึงเจ้าของกิจการต่างๆ โดยตรง Email Marketing นับเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้านี้อย่างมาก ทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสในการขายสินค้า หรือ บริการ ให้กับธุรกิจได้อีกด้วย
Email Marketing มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
ถ้าบอกกันตามตรง ไม่มีวิธีการตลาดวิธีไหนในโลกที่ “ดีที่สุด” สำหรับทุกๆ ธุรกิจ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจเองที่ต้องเป็นคนศึกษาดูว่า กลุ่มลูกค้าของตัวเองมีพฤติกรรมการซื้ออย่างไรแล้วค่อยมาดูว่าช่องทางการตลาดไหนที่น่าจะเหมาะสม ดังนั้นในกรณีของ Email Marketing นั้นก็เช่นกัน
1. เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ถือเป็นจุดเด่นของ การตลาด เพราะโดยปกติแล้วที่มาของรายชื่อทุกอีเมลจะได้รับมาจากคนที่เป็นลูกค้า หรืออาจเคยสนใจในสินค้า หรือ บริการ ของเราโดยตรง ดังนั้นเวลาคุณส่งอีเมลโปรโมชั่น แนะนำสินค้า ฯลฯ ไปหาคนกลุ่มนี้ ก็มีโอกาสสูงที่เขาเหล่านั้นจะกลับมาซื้อซ้ำ
2. กระตุ้นยอดขายด้วยแคมเปญการตลาดเฉพาะ
ธุรกิจส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักให้ความสำคัญกับการทำการตลาดบน Social Media แต่ความจริงแล้ว Email Marketing คือหนึ่งในช่องทางที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดีเลยทีเดียว เพราะคุณสามารถส่งโปรโมชั่น ส่วนลด และของแถมพิเศษ ให้กับคนที่เคยเป็นลูกค้าได้ แถมเข้าถึงได้ตรงกลุ่มมากกว่า Social Media อีกด้วย
3. นำเสนอสินค้า และบริการใหม่ๆ
ในหลายๆ ครั้ง เมื่อธุรกิจเปิดตัวสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ลูกค้าอาจจะไม่ได้รับรู้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม Email Marketing สามารถช่วยให้ธุรกิจประชาสัมพันธ์สินค้าออกใหม่ส่งตรงให้ถึงลูกค้าได้ ยิ่งถ้าเพิ่มโปรฯ พิเศษเฉพาะลูกค้าที่เห็นแคมเปญการตลาดนี้ รับรองว่าจะกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ดีเลยที่เดียว
4. วัดผลได้อย่างแม่นยำ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Email Marketing คือการวัดผลเพราะสามารถตรวจสอบเองได้เลยว่า อีเมลทั้งหมดที่ส่งไปมีคนเปิดอ่านแล้วกี่ฉบับ แล้วถ้าหากลูกค้าคลิกลิงก์ที่ถูกแนบไปทาง Email ทำการกดสั่งซื้อสินค้าต่อจากนั้น เราก็จะเห็นได้ทันทีว่า Email ฉบับไหนที่ปิดการขายได้บ้าง ดังนั้นทุกๆ ครั้งที่ส่ง Email หาลูกค้าก็อย่าลืมแนบ UTM Link เข้าไปด้วยเพื่อที่จะได้ติดตามการเข้าถึงสินค้าต่างๆ ของคนเหล่านั้นได้
5. ต้นทุนต่ำกว่า! หากเทียบกับการตลาดช่องทางยอดนิยมอื่นๆ
การจ่ายเงินซื้อโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Google, LINE, TikTok ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น และควรทำหากธุรกิจต้องการเพิ่มฐานลูกค้าในวงกว้าง แต่วิธีการนี้จะไม่สามารถการันตีได้เลยว่าโฆษณาที่ส่งออกไปจะไปถึงผู้ที่สนใจในสินค้าของเราจริงๆ หรือเปล่า แต่ Email Marketing นอกจากมีต้นทุนแค่แพลตฟอร์มสำหรับใช้บริการในการส่ง Email หาลูกค้าเพียงอย่างเดียวแล้ว (ส่วนมากคิดเป็นค่าบริการรายเดือน) ยังมั่นใจได้ว่าข้อความหรือคอนเทนต์ต่างๆ ที่ส่งออกไปจะถึงลูกค้าอย่างแน่นอนเพราะทุกๆ รายชื่ออีเมลที่เรามี คือข้อมูลที่เราเก็บมาจากลูกค้าโดยตรง
Email Marketing ทำอย่างไร? หา Email ลูกค้าได้จากที่ไหน?
ก่อนที่เราจะสามารถทำ Email Marketing ส่งไปให้ใครได้นั้น สิ่งที่ต้องมีเป็นอย่างแรกคือ “Email ของคนที่เราจะส่งข้อความไปหา” หากเป็นเมื่อก่อน ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นวิธีที่ใช้งานได้เราน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ “ระบบสมาชิก” อย่างเช่นตามห้างสรรพสินค้า เคาน์เตอร์แบรนด์ เวลาที่เขาต้องการฐานข้อมูลคนที่สนใจ หรือลูกค้าที่เคยซื้อของก็มักจะใช้วิธีเชิญชวนให้ลูกค้าสมัครสมาชิกโดยข้อมูลที่ต้องกรอกหลักๆ ก็จะเป็น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และ Email ทั้งการเขียนใบสมัครแบบเก่า หรือลงทะเบียนออนไลน์
แต่อีกหนึ่งวิธี ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ก็คือการแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างให้กับลูกค้า เช่น เวลาคุณเข้าเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ เขาก็มักจะมีช่องให้กรอก Email เพื่อรับข่าวสาร โดยเมื่อกรอกเสร็จแล้วส่วนมากก็จะให้เป็นส่วนลดพิเศษ! สำหรับลูกค้าที่กรอกข้อมูล หรืออาจจะทำ eBook เพื่อให้คนลงทะเบียน และดาวน์โหลดไปอ่านได้ฟรี! อย่างในวงการอสังหาริมทรัพย์ ก็มักจะใช้วิธีการให้คนที่สนใจโครงการบ้านหรือคอนโดฯ กรอกข้อมูลเพื่อเข้าเยี่ยมชมโครงการพร้อมรับส่วนลดพิเศษที่น่าดึงดูด ทั้งหมดนี้คือวิธีที่เจ้าของธุรกิจจะสามารถได้ Email ของลูกค้ามาอย่างถูกต้อง
Email Marketing เจ้าไหนดี!
หากคุณกำลังเข้าใจว่า การทำ Email Marketing คือการที่คุณสมัครบริการ Gmail, Outlook เพื่อนั่งกรอกรายการ Email ลูกค้าแล้วกดส่งอีเมลด้วยตัวเองล่ะก็ จริงๆ แล้ววิธีนี้ก็ทำได้แต่นอกจากจะวัดผลลำบากแล้ว คุณยังจะเหนื่อยเกินความจำเป็นอีกด้วย เพราะถ้าหากคุณมี Email ลูกค้าเป็นหลักร้อยถึงหมื่นรายการ คงจะมานั่งส่งเองไม่ไหว
ทุกวันนี้มีแพลตฟอร์มที่ให้บริการด้าน Email Marketing มากมายอย่าง MailChimp, Hubspot, Sender ฯลฯ โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะคิดค่าบริการเป็น Subscription (จ่ายเป็นรายเดือน) โดยแพ็กเกจต่างๆ คุณสามารถเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของตัวเองได้เลย ข้อดีของการใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้นอกจากที่เราไม่ต้องมานั่งส่ง Email เองแล้ว การวัดผล การออกแบบหน้าตา Email ให้มีความสวยน่าสนใจยังทำได้ง่ายและดีกว่าการส่ง Email แบบธรรมดา
Email Marketing คือ วิธีหรือกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งเท่านั้นที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต แต่อย่างที่บอกไปตอนต้นไม่ใช่ทุกๆ วิธีทางการตลาดจะเหมาะกับทุกธุรกิจ คำตอบที่ดีที่สุดหากคุณต้องการรู้ว่าคุณควรเลือกใช้วิธีไหนในการทำให้ธุรกิจเติบโต คือการมองย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายว่าพวกเขาคือใคร ทำอาชีพอะไร ช่วงอายุเท่าไหร่ อาศัยที่ไหน ฯลฯ หากหาคำตอบได้แล้ว และเหมาะอย่างมากกับการทำ Email Marketing เราก็แนะนำว่าไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะเป็นวิธีที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ดีที่สุดวิธีหนึ่ง