บัญชีธุรกิจ Facebook เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การขายของออนไลน์ของคุณเป็นระบบมากขึ้น ทั้งในแง่ของการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) การมีส่วนร่วม (Engagement) ไปจนถึงการสร้างผลกำไร
Table of contents
Facebook Business Manager คืออะไร?
Facebook Business Manager คือเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการบัญชีต่างๆ หรือภาษาไทยเรียกว่า “ตัวจัดการธุรกิจ” เปรียบเสมือนตัวกลางในการบริหารจัดการบัญชีทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะมีสิบบัญชี ร้อยบัญชี คุณก็สามารถจัดการกับเพจทั้งหมดที่มี หรือตั้งค่าโฆษณาต่างๆ ได้ครบ จบ ที่นี่ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนในวงการเอเจนซี่หรือคนที่มีหลายเพจต้องดูแล ซึ่งจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนของธุรกิจ ส่วนของบัญชีโฆษณา (Ads Account) และเพจ โดยแต่ละส่วนจะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป
1. ธุรกิจ (Business Setting)
ส่วนสำคัญที่สุดที่มีไว้สำหรับบริหารจัดการบุคลากรและทรัพยากรของธุรกิจ โดยส่วนนี้คุณจะสามารถใช้สำหรับจัดการคน ไม่ว่าจจะเพิ่ม ลด กำหนดตำแหน่งหน้าที่ของทีมงานแต่ละคนได้ว่า จะให้เขาคนนั้นมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลได้ถึงขั้นไหน เป็น Employee (ไม่มีสิทธิแก้ไขตำแหน่งคนอื่น) หรือ Admin (มีสิทธิแก้ไข ลบ เพิ่ม บุคคลอื่น) รวมถึงการกำหนดสิทธิทางด้านการเงินได้ด้วย สามารถจำแนกได้อีกว่าแต่ละคนจะมีสิทธิเข้าถึงบัญชีโฆษณาไหนบ้าง เข้าถึงเพจไหนบ้าง แล้วแต่ละบัญชีโฆษณาหรือเพจก็สามารถกำหนดได้ละเอียดลงไปอีกว่าเขาคนนั้นจะมีสิทธิหรือตำแหน่งหน้าที่ในการเข้าถึงบัญชีนั้น ๆ ได้มากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้ตรงส่วนของการตั้งค่าธุรกิจยังสามารถกำหนด Partner ธุรกิจได้ ในกรณีที่คุณอาจจะต้องร่วมงานกับธุรกิจอื่นๆ เช่น Digital Agency ที่เข้ามาดูแลแคมเปญการตลาดออนไลน์ให้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังกำหนดรายละเอียดต่างๆ ได้มากมาย ทั้งเรื่องการจัดการบิลและการชำระเงิน กำหนดข้อมูลธุรกิจ ฯลฯ
2. บัญชีโฆษณา (Facebook Ads)
ตรงส่วนนี้จะมีไว้สำหรับจัดการบัญชีที่เราใช้ในการทำโฆษณาออนไลน์ โดย 1 คนสามารถบริหารจัดการบัญชีโฆษณาได้สูงสุด 25 บัญชีและใน 1 บัญชีก็สามารถมีผู้บริหารจัดการได้สูงสุด 25 คน
3. เพจ (Facebook Page)
คิดว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับการใช้ Facebook ในฐานะของแพลตฟอร์ม Social Media เพื่อติดต่อพูดคุย แชร์เรื่องราวไปจนถึงพบเจอเพื่อนใหม่ ๆ จนเวลาผ่านไปเมื่อเริ่มมีธุรกิจออนไลน์เกิดบน Facebook มากขึ้น ผู้คนก็สนใจที่จะมาสร้างเนื้อสร้างตัว ต่อยอดธุรกิจบนสังคมออนไลน์มากขึ้นตามไปด้วย หนึ่งในเครื่องมือที่เชื่อว่าคนทำธุรกิจออนไลน์หรือสร้างตัวตนผ่าน Facebook น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ “เพจ Facebook”
แต่โดยปกติแล้วหากใช้ Facebook เปิดเพจขายของด้วยตัวเอง เพจที่ได้นั้นจะอยู่ในสถานะ “เพจในบัญชีส่วนตัว” การใช้งานอาจจะไม่แตกต่างจากเพจที่อยู่ในบัญชีธุรกิจ Facebook มากนักแต่การบริหารจัดการทั้งเรื่องคนที่จะเข้ามาดูแลเพจ บัญชีโฆษณาที่จะใช้ในการซื้อโฆษณาสำหรับเพจนั้น ๆ ใน Facebook Business Manager จะทำได้ละเอียดมากกว่า
บัญชีธุรกิจ Facebook ต่างจากบัญชี Facebook ปกติอย่างไร?
หากคุณเป็นคนขายของออนไลน์ที่ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว หรืออาจจะมีแอดมินคอยช่วยตอบ 2-3 คน มีเพจเดียวที่ต้องบริหารจัดการ ซื้อโฆษณาทั่ว ๆ ไปไม่ได้ต้องการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกอะไรมาก การใช้บัญชีเพจ Facebook แบบปกติก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่บัญชีธุรกิจ Facebook คือเครื่องมือที่เหมาะสำหรับคนทำธุรกิจที่ต้องการจัดการการจัดการที่ละเอียดซับซ้อนมากขึ้น ทั้งเรื่องคน บัญชีโฆษณา บัญชีเพจ พาร์ทเนอร์ต่าง ๆ รวมถึงเรื่องการเงินซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในทางธุรกิจ
ข้อแตกต่างที่น่าจะพอเห็นภาพได้ง่ายๆ คือ หากคุณใช้บัญชี Facebook ส่วนตัวเปิดเพจแบบปกติสัก 2-3 เพจโดยแยกตามแบรนด์ หรือสินค้าที่ขาย แต่ตอนทำโฆษณานั้นคุณจะสามารถใช้บัญชีโฆษณาส่วนตัวซึ่งระบบจะสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อคุณทำโฆษณาครั้งแรกได้เพียงบัญชีเดียว ต่างจาก Facebook Business Manager ที่คุณสามารถสร้างบัญชีโฆษณาแยกสำหรับแต่ละเพจได้เลย แน่นอนว่าข้อดีคือการจัดการทางด้านบัญชี ยิ่งถ้าเป็นในรูปแบบบริษัทด้วยแล้ว การออกใบเสร็จต่าง ๆ จะทำให้จำแนกง่ายและเป็นระบบมากกว่าเพราะบัญชีโฆษณาแยกกัน ไม่ต้องมานั่งแยกรายการด้วยตัวเองว่าแคมเปญโฆษณาไหนซื้อโฆษณาบนเพจใด
สามารถสร้างบัญชีธุรกิจ Facebook ได้กี่บัญชี?
ใน 1 บัญชี Facebook จะสามารถสร้างบัญชีธุรกิจได้สูงสุด 2 บัญชีเท่านั้น ดังนั้นหากคุณต้องการทำงานมากกว่า 2 บัญชีธุรกิจ คุณจะต้องเข้าไปอยู่ในบัญชีธุรกิจของคนอื่น ซึ่งตรงส่วนนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งของคุณในแต่ละธุรกิจว่าจะเป็น Admin หรือ Employee แต่จะจำกัดการสร้างธุรกิจขึ้นใหม่ไว้ที่ 2 ธุรกิจ ต่อ 1 บัญชี Facebook เท่านั้น
เพราะ Facebook Business Manager คือเครื่องมือที่มีไว้สำหรับจัดการธุรกิจบนแพลตฟอร์ม Facebook อย่างละเอียด ดังนั้นการใช้งานต่างๆ ที่อยู่ภายในจึงค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้เวลาเรียนรู้การใช้งานพอสมควร ดังนั้นหากคุณเป็นคนทำธุรกิจเล็กๆ คนเดียว ไม่ต้องต้องการจัดการอะไรที่ละเอียดซับซ้อนมาก บัญชีธุรกิจ Facebook อาจจะยังไม่จำเป็นสำหรับคุณ แต่ถ้าหากต้องการเข้าถึงเครื่องมือเชิงลึก บริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ อย่างเป็นระบบ Faebook Business Manager จะตอบโจทย์อย่างมาก